On-page SEO คือ การปรับแต่งเนื้อหา Keyword คำ ประโยค ในหน้าเว็บเพจให้ Google เข้าใจว่าหน้านี้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับอะไร เช่น เกี่ยวกับ TV, รถกระบะ, เซรั่ม, ครีมบำรุงผิว, ขายคอนโด, ขายบ้าน ฯลฯ
Google จะได้นำหน้าเพจนี้ของเว็บไซต์คุณไปจัดอันดับ แสดงให้คนเห็น แล้วส่วนหนึ่งที่จะทำให้ได้รับจัดอันดับเว็บไซต์คุณไปอยู่หน้าแรก หรือมีอันดับที่ดีต้องทำยังไง?
คือ การใส่ Keyword ในแต่ละจุดของหน้าเว็บเพจ
วันนี้ผมมา สอน SEO เรื่อง 13 จุดที่ต้องใส่ Keyword ไว้แบบนี้ครับ
1. Title Tag
ใส่ให้อยู่ต้นๆของชื่อเรื่อง และควรตั้งให้น่าคลิก น่าสนใจ
ความยาวของชื่อ Title ไม่ควรเกิน 60 ตัวอักษร
2. Description Tag
ใส่ให้อยู่ช่วงต้นๆในส่วนของ Description Tag
(ส่วนนี้จะไปแสดงผลที่หน้า Google Search ด้วย)
ความยาวไม่เกิน 160 ตัวอักษร
ถ้าดูผ่านมือถือจะแสดงผลแค่ 120 ตัวอักษร เลยควรเน้นประโยคเด็ดๆให้น่าสนใจไว้ภายใน 120 ตัวอักษร
วิธีใส่ Title และ Description Tag ที่ง่ายมากด้วยปลั๊กอิน Yoast SEO
“ในการปรับแต่ง SEO หน้าเว็บ ใช้ Yoast SEO ให้เป็นตัวช่วยในการเช็กได้ครับ
แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องซีเรียสทำตามทุกอย่างเป๊ะๆนะครับ
เขาทำมาสำหรับภาษาอังกฤษ แต่เราเป็นภาษาไทย ขอให้ใช้เป็นแนวทางก็พอ”
3. URL
เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ และ URL สั้นเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ต้องดูรู้เรื่องนะ
4. Heading 1 (H1)
ถ้าใช้ WordPress ส่วนใหญ่ช่อง Title ที่ให้ใส่ชื่อเรื่องนั่นแหละคือ H1
5. First Paragraph
ใส่ไว้ช่วงต้นๆของพารากราฟแรก สัก 100 คำแรก ใส่ 1-2 ครั้งก็พอ พารากราฟแรกยาวสัก 120 ตัวอักษรขึ้นไป และแต่ละพารากราฟก็ไม่ควรยาวมาก เพราะทำให้คนอ่านลำบาก แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว
6. Heading 2 (H2)
เป็นหัวเรื่องรอง ใส่ Focus หรือ Support Keyword ไว้ตรงนี้ด้วยนะ ตลอดทั้งบทความหรือหน้าเว็บเพจ ควรมี H2 เป็นระยะๆ
7. Heading 3 (H3)
จะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีขอให้เป็นส่วนย่อยของ H2 โดยใส่เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับแต่ละ H2 นั้นๆ
8. กระจาย Focus Keyword
ใส่ให้ทั่วทั้งหน้า แต่อยากให้เน้นที่ ช่วงต้นและกลางบทความหรือเว็บเพจ
9. Keyword Density
ปริมาณ Focus Keyword ที่ใส่ในบทความอยู่ประมาณ 0.5-3 % (อันนี้ไม่ตายตัวนะครับ Google เปลี่ยนไปเรื่อย ต้องทดลองกันดู) แต่ที่ผมเคยไปฟังเจ้าหน้าที่ Google เขาบอกเองว่า ไม่ได้มีเรื่องนี้เลย เพื่อนๆเชื่อกันไหมครับ?
10. จำนวนคำ
จำนวนคำในบทความควรมีความยาวตั้งแต่ 500 คำขึ้นไป
11. Keyphrases / Related & Support Keyword
ใช้การผสมคำระหว่าง Main Keyword กับ คำที่เกี่ยวข้อง เช่น iPhone XR ราคา และ ใส่คำที่เกี่ยวข้องกับเรื่องด้วย เช่น มือถือ คำที่เกี่ยวข้องก็จะมี แอพ สายชาร์จ แบตเตอรี่ เคสมือถือ กล้อง เสียง ฯลฯ
12. รูปภาพ
ใส่ Focus Keyword ที่รูปภาพตรง Alt Text ด้วย เป็นการบอก Google ว่านี่คือรูปอะไร
ประโยชน์อีกอย่างคือ ถ้าโหลดรูปไม่ขึ้น คนอ่านก็จะเห็นคำที่คุณใส่ไว้ว่านี่คือรูปอะไร
13. Tags
เพิ่ม Focus Keyword และ Related Keyphrases ที่ Tags ของบทความ 3-5 Tag ก็พอ (ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องมีแล้วก็ได้ครับ ยกเว้นว่าอยากทำอันดับที่หน้า domain.com/tag/บลาๆๆ
อีกข้อ เพิ่มให้
ควรจะเอาบทความไปไว้ในหมวดหมู่ที่เป็นเนื้อหาเดียวกัน เกี่ยวข้องกัน เวลาคนอ่านเลือกดูตามหมวดหมู่ก็จะเจอได้ง่ายๆ และหมวดหมู่นั้นควรใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องกันไว้ด้วยนะ
เรื่องของ Keyword ก็มีแบ่งประเภทเหมือนกัน อ่านเพิ่มเติมที่ 7 ประเภท Keyword สำหรับทำ SEO ให้ธุรกิจโต รายได้ดี ก็น่าจะพอเข้าใจเรื่อง On-page seo คือ อะไรกันบ้างนะครับ(หรือป่าวหว่า)
คิดถึงประโยชน์ที่จะช่วยแก้ปัญหาให้คนอ่านเสมอ
ที่สำคัญคืออยากให้คิดตั้งต้นไว้ก่อนว่า ทำบทความเพื่อให้ประโยชน์ แก้ปัญหาให้คนอ่าน ไม่ควรไปหมกมุ่นที่ Keyword มากเกินไปจนทำให้เนื้อหาไม่น่าอ่าน
อ่านลงมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญคือ ลองเอาไปทำกันด้วยนะจ๊ะ สำหรับบทความนี้จบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ