
ผมมี 7 ประเภท ตัวอย่าง Keyword มาแนะนำเป็นแนวทางการทำ SEO เนื้อหาบทความสินค้าบริการต่างๆ ให้คุณเอาไปทำให้กับ website คุณเอง หรือจะทำให้กับ โพสวิดีโอ Youtube , โพสขายสินค้าก็ได้ ถ้าคุณไม่รู้จะเริ่มทำ SEO จากคำอะไร หรือได้ใช้โปรแกรม Keyword tool ต่างๆดึงข้อมูลมาแล้ว มันก็เยอะจนไม่รู้จะเริ่มยังไง
บทความนี้เป็นแนวทางบริหารจัดการการวางแผนทำงานด้านคำค้นหาครับ
ตัวอย่าง Keyword 7 ประเภท เอาไว้เป็นแนวทางทำ SEO
ผมสรุปเอาประเภทคีย์เวิร์ดที่ควรทำมาให้นะครับ
1. Brand Keyword
ตัวอย่าง keyword แรกนี้เหมาะมากสำหรับการทำ SEO กับแบรนด์ธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ เป็นการบอก Google ว่าบทความ, Category ในเว็บไซต์คุณมีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์ธุรกิจนั้นๆ
เช่น เมืองไทยประกันภัย, ธนชาตประกันภัย, Honda, adidas
และคุณควรทำประเภท keyword ในหัวข้อถัดไป ควบคู่ประกอบกันด้วย
2. Product Keyword
การทำคำที่เป็นชื่อผลิตภัณฑ์ต่างๆของแบรนด์สินค้า นอกจากเป็นการทำเนื้อหาเพื่อให้เข้าถึงคนได้ดีมากยิ่งขึ้น ยังเป็นการบอก Google ถึงความเกี่ยวข้องกับแบรนด์อีกด้วย
ตัวอย่าง เช่น Honda Civic, mizuno morelia neo, ipad pro
ผมได้รีบลองทำกับสินค้าแบรด์นึง ที่ตอนแรกยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก ผลคือ เว็บฯผมติดหน้าแรก google แล้วก็ได้ลูกค้าเรื่อยๆ
เป็นการทดลองควบคู่ไปกับการ รับทำ seo ที่ดีครับ
3.Short-tail Keyword
(ผมขอรวม Middle-tail keyword ในหัวข้อนี้ด้วยนะครับ)

ภาพจาก : SEOPressor
เป็นประเภทคำค้นหาที่มีปริมาณการค้นหาสูง มีความหมายกว้างๆ ไม่ได้ระบุชัดเจนถึงชื่อแบรนด์หรือชื่อผลิตภัณฑ์
เป็นการค้นหาเบื้องต้นที่ยังไม่ระบุเนื้อหาเฉพาะเจาะจงมากนัก
ตัวอย่าง เช่น ครีมกันแดด(อยากจะซื้อครีมกันแดดมาทาสักหน่อย แต่มันมีแบบไหนบ้างนะ ยี่ห้อไหนดี ต้องยี่ห้อ Richest ของครู้รุ้ง ที่อาจารย์บัณฑิต เป็นพรีเซนเตอร์หรือป่าวน๊า อิอิ)
หรือ ประกันชีวิต, ตู้เสื้อผ้า, รองเท้าวิ่ง
การจะขึ้นหน้าแรกในคำประเภทนี้ ต้องใช้เวลาพอสมควร โดยให้ไปทำประเภทคำค้นหาหัวข้อถัดไป ทำสะสมไปเรื่อยๆ
4. Long-tail Keyword
ขอบอกก่อนเลยว่า ตัวอย่าง keyword ที่แนะนำต่อไปนี้ สำคัญนะครับ
เป็นคำที่มีความหมายเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เป็นคำที่แสดงถึงความต้องการได้ชัดเจนมาก
ตัวอย่าง เช่น ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ราคา (เฮ้ย! ประกันรถใกล้หมดแล้วนี่หว่า เอาชั้น 1 เหมือนเดิมนี่แหละ ต่อที่ไหนดี ไหนดูราคาซิ)
หรือ รถยนต์มือสองเจ้าของขายเอง, ครีมกันแดดผิวแพ้ง่าย
ถึงแม้คำเหล่านี้จะมีปริมาณการค้นหาที่น้อยลง แต่ก็มีการแข่งขันที่ไม่สูง
แล้วส่วนใหญ่คำประเภทนี้เป็นประเภทที่ทำเงินด้วย เหมาะเอามาทำ SEO ก่อนเลย
สะสมคำประเภทนี้ไว้เยอะๆ แล้วอนาคตจะดีเองนะจ๊ะ
5. Geo-Targeting Keyword
เป็นการใส่ชื่อพื้นที่หรือบริเวณที่ธุรกิจคุณให้บริการอยู่กับคำหลักด้วย
ทำให้คนที่กำลังค้นหาเจาะจงพื้นที่นั้นๆ เจอได้ง่ายและไปใช้บริการ
ตัวอย่าง เช่น โรงแรมพัทยาติดทะเล(นี่เธอ..ฉันอยากไปนอนดูทะเลหน่อย..ที่พัทยาก็ได้)
หรือ ขายปูม้า มหาชัย, ร้านกาแฟ ทองหล่อ, Honda เอกมัย
6. Short-term fresh Keyword

คำค้นหาประเภทนี้ เป็นคำค้นหาที่อิงตามกระแส ณ ช่วงเวลาหนึ่ง จะได้ปริมาณคนเข้ามาดูเว็บไซต์คุณมากในช่วงเวลาที่เรื่องราวนั้นยังเป็นกระแส
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก คำนั้นไม่ได้เป็นกระแสแล้ว ปริมาณการค้นหาก็จะลดลง
เช่น pm 2.5, ชิมช้อปใช้ หรือโรคที่เป็นกันเยอะในช่วงเวลาหนึ่ง
ถ้าเรื่องราวอะไรที่เป็นกระแส แล้วคุณเอาคำนั้นมาประยุกต์กับธุรกิจเว็บไซต์คุณได้ คุณก็จะได้คนเข้ามารู้จักเว็บไซต์คุณมากขึ้นในช่วงเวลานั้น
7. Long-term Keyword / Evergreen Content
เป็นประเภทที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็มีคนค้นหาเพื่อหาข้อมูลอ่านอยู่เสมอ
ข้อมูลของเนื้อหาความรู้ประเภทนี้ค่อนข้างจะตายตัว ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ตัวอย่าง keyword เช่น ประวัติวันมาฆบูชา, โรงพยาบาลแรกของไทย, สเปค iphone 11
Bonus แถมให้
8. Seasonal Keyword

เป็นคำค้นหาที่คนมีความต้องการสูงมากในช่วงเวลาสั้นๆ คนจะนิยมค้นหาเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้ อาจเป็นช่วงเทศกาล ประเพณี วันสำคัญ
คนจะหาคำประเภทนี้เมื่อถึงเวลานั้นๆ ตัวอย่าง เช่น เสื้อกันหนาว, ปืนฉีดน้ำ(ไว้เล่นสงกรานต์), ของขวัญปีใหม่, กระดาษเงินกระดาษทอง(ช่วงตรุษจีน)
หากสินค้าคุณเป็นแนวนี้ก็ไม่ต้องตกใจนะครับว่าทำไม Traffic เข้ามาช่วงนึงแบบพายุกระหน่ำแล้วก็จากไป
9. Positive Buyer Intent Keyword
ใส่คำว่า ส่วนลด, รีวิว, ราคาถูก, วิธี, เปรียบเทียบ
ให้ใส่ที่ Title, Description คู่ไปกับ keyword ประเภทอื่นๆด้วย
ตัวอย่าง เช่น รีวิว ครีมกันแดดผิวแพ้ง่าย, ส่วนลด ห้องอาหารโรงแรม 5 ดาว
แนะนำให้ทำ content เนื้อหาประเภทนี้เพิ่มด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการซื้อมากขึ้น
จบแล้วครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยเป็นแนวทางในการจัดกลุ่มคำเพื่อทำ SEO ได้ง่ายขึ้น
อ่านบทความสอน SEO เบื้องต้นเพิ่มเติมกันได้ครับ ส่วนใครยังอยากรู้ต่อว่าเวลาทำเป็นบทความ ต้องเขียนยังไงใส่คำไว้ตรงไหน ไปต่อกันได้ที่ 13 จุดใส่ Keyword On-page SEO คือ สิ่งที่ต้องทำ ลูกค้าจะได้เจอนะจ๊ะ
ฝากทิ้งท้ายไว้นิดนึงก่อนจากกันในบทความนี้
การเลือกคำต่างๆมาทำเนื้อหาในเว็บไซต์ ต้องเป็นคำที่มีความเกี่ยวข้องกันกับคำหลักในเว็บไซต์ด้วยนะครับ หากพี่ๆน้องๆเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ กดแชร์ให้คนอื่นได้อ่านกันด้วยนะจ๊ะ สวัสดีครับ