การทำ SEO แบบบ้านๆ ก็ขึ้นหน้า 1 Google ได้ จากประสบการณ์จริง

วิธีทำ SEO On-page เบื้องต้น

ที่ผมบอกว่า การทำ SEO ของผมเป็นแบบบ้านๆ ก็เพราะว่าวิธีการทำของผมไม่ได้มีเทคนิคพิเศษอะไรแพรวพราวซับซ้อนสเตปเทพแต่อย่างใด ก็ทำตามพื้นฐานแบบที่จะบอกต่อไปตามด้านล่างครับ

ผมโตมาจากสาย content ไม่ได้ถนัด coding แบบสายโปรแกรมเมอร์ จะอ่านหรือเขียนสะค้งสคริปอะไรนี่คือ…ไม่รู้เรื่องครับ

แต่ก็พอทำอันดับเว็บไซต์ให้ขึ้นหน้าแรกได้

“ถ้าผมทำได้ คุณก็ทำได้ แล้วพบกันที่ความสำเร็จ”

ประโยคนี้คุ้นๆไหมครับ แซวเล่นนะครับ ใครมีโอกาสได้ไปฟังธุรกิจเครือข่าย คงเคยได้ยินบ้าง

7 วิธีทำ seo on-page

ก่อนเข้าเรื่อง การทำ seo แนะนำให้อ่านทำความเข้าใจ SEO คืออะไร กันก่อนนะครับ

ประโยชน์ของการทำ SEO มีเรื่องหนึ่งที่คุณคาดไม่ถึง คือ

“การขายของและสร้างรายได้แบบ Passive Income”

(แต่เว็บไซต์คุณต้องมีระบบรับชำเงินอัตโนมัติด้วยนะ)

คุณก็สามารถทำแบบที่ผม รับทำ SEO สายขาว ให้กับธุรกิจต่างๆได้

7 ขั้นตอน การทำ SEO On-Page ของผมแบบจัดการสารรูปตัวเองก่อน มีตามนี้ครับ

1. วิเคราะห์คำค้นหา Keyword Analysis

เป็นสิ่งแรกของการทำ SEO พิจารณาเบื้องต้นก่อนครับว่าคุณทำธุรกิจอะไร

เช่น คุณขายโต๊ะทำงาน ก็ไปวิเคราะห์ Keyword เพิ่มเติมเกี่ยวกับ โต๊ะทำงาน หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับโต๊ะทำงานนะครับ

เลือก Keyword ที่ได้มาใช้ เพื่อนำมาวางแผนการทำบทความภายในเว็บไซต์ และแทรกคีย์เวิร์ดตามส่วนต่างๆ ของบทความ

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การหา Keyword วิธีวิเคราะห์คำค้นหา

2. โครงสร้างเว็บไซต์ Website Structure

ปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้ Robot เข้าถึงข้อมูลภายในเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายที่สุด จัดหมวดหมู่ให้ชัดเจน

ไม่ทำข้อมูลแต่ละหน้าเพจในเว็บไซต์ให้สลับซับซ้อน

รวมทั้งเพื่อทำให้ Google เข้าใจด้วยว่าเว็บไซต์และเว็บเพจแต่ละหน้าของคุณเกี่ยวข้องกับอะไร

3. แทรกคำค้นหา Keyword ในหน้าเพจ

ย้ำเรื่องแรกก่อนนะครับ เนื้อหาบทความต้องตอบโจทย์คนอ่านนะครับ แล้วก็แทรก Keyword หลักและรอง ตามจุดต่างๆ ดังนี้

  • ชื่อเรื่อง (H1)
    แทรก Focus Keyword อยู่ด้านหน้าๆ หน่อยนะ
  • พารากราฟแรก
    แทรก Focus Keyword อยู่ช่วงต้นๆ หน่อยนะ ไม่เกิน 100 คำแรก
  • หัวเรื่องรอง (H2)
    แทรก Focus Keyword, Support Keyword, Related Keyword
  • พารากราฟต่างๆ
    ใส่ Focus Keyword , Support Keyword , Related Keyword ไม่มากและไม่น้อยไป
    ความหนาแน่น (Keyword Density) ประมาณ 2-4% หรือตามไกด์ไลน์ของปลั๊กอิน Yoast seo ก็ได้ครับ

4. URL Friendly

URL ไม่ควรยาวเกินไป และใส่ Keyword อยู่ใน URL ด้วยนะ

หรือถ้าใส่ไว้ไม่ได้ คำที่ใช้ก็ต้องบ่งบอกได้ว่าหน้าเพจนี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร จะใช้เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยก็ได้

  • url ภาษาอังกฤษ เวลา Copy url ไปแชร์ จะดูสวย Friendly กว่าภาษาไทยที่เป็นตัวอักษรแปลกๆ ยาวเป็นหางว่าวให้แฟนมาชักเล่นได้เลย
  • url ภาษาไทย ตรงหน้าเว็บ Google Serach ใต้ชื่อเรื่องของเว็บไซต์จะแสดงคำภาษาไทย ที่ดูจะเข้าถึงคนไทยได้มากกว่า

5. Multimedia ใส่ภาพ วิดีโอ เสียง

ใส่มัลติมีเดีย เช่น ภาพประกอบ วิดีโอ เสียง

จะช่วยทำให้ User อยู่ในเว็บเราได้นานขึ้น

ใส่คีย์เวิร์ดที่ Alt Text ของภาพด้วยนะ

6. Title & Description Meta Tag

ที่ส่วนของ Meta Tag เขียน Title ประมาณ 60 ตัวอักษร และ Description ประมาณ 160 ตัวอักษร

มีการแทรก Keyword ที่ส่วน Title และที่ส่วนคำอธิบายเนื้อหา เขียนให้ดูน่าสนใจน่าคลิกน่าอ่าน เพื่อเพิ่มค่า CTR = Click-Through Rate

(ปลั๊กอิน Yoast seo ให้คุณทำตรง Edit Snippet ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะไปเสนอหน้าอยู่ที่ผลการค้นหากูเกิล)

Meta Keyword ผมไม่ได้ใส่

7. Internal & External Link

ทำลิงค์ไปยังบทความอื่นภายในเว็บไซต์เรา หรือลิงค์ไปบทความเว็บไซต์คนอื่น ถ้ามีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันนะครับ

อื่นๆ ถ้าอยากทำครับ เช่น Rich Results

Rich Results (ภาพด้านล่าง) สะดุดตา ดึงดูดให้คนคลิกดีนะครับ

ตัวอย่าง rich results 3 แบบ

ขอบคุณภาพจาก : econsultancy.com

การทำ SEO แบบนี้กับ Keyword ที่ไม่ได้มีการแข่งขันสูงมาก ก็สามารถขึ้นหน้า 1 ได้ครับ

เพิ่มเติมหน่อยคือ เอาบทความไปแชร์ใน Social หรือที่กลุ่มเป้าหมายเราอยู่

ไปทำบทความในเว็บไซต์อื่นที่มีเนื้อหาประเภทเดียวกัน และใส่ลิงค์กลับมายังเว็บไซต์คุณ (เรียกว่าการทำ Backlink)

ทำเสร็จแล้วรอการจัดอันดับครับ ไม่ต้องใจร้อนนะจ๊ะ

ครั้งต่อไปผมจะมาบอกคุณถึงวิธีการทำ Off-Page นะครับ ขอให้สำเร็จทุกคนครับ

ต้องการเรียนรู้เรื่อง SEO คลิกดูบทความ สอน SEO ทั้งหมดที่ผมเขียนไว้นะครับ